บทความนี้เหมาะสำหรับนักพนันหน้าใหม่และเซียนบอลโดยเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธี ประเภท และข้อดีข้อเสียของการเดิมพันประเภทพาร์เลย์หรือการเดิมพันแบบชุด
บทความนี้เหมาะสำหรับนักพนันหน้าใหม่และเซียนบอลโดยเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธี ประเภท และข้อดีข้อเสียของการเดิมพันประเภทพาร์เลย์หรือการเดิมพันแบบชุด
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเพิ่มจำนวนผลกำไรในการพนันกีฬาที่คุณชื่นชอบ การเดิมพันแบบพาร์เลย์คือทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะข้อดีของการเดิมพันนี้คือผู้เดิมพันสามารถรวมอัตราต่อรองในการแข่งขันกีฬาแตกต่างกันจำนวน 2 รายการขึ้นไป และหากคุณทายผลทั้งหมดถูกต้อง คุณจะได้รับการจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเป็นค่าตอบแทน
การเดิมพันแบบพาร์เลย์ยังมีข้อดีคือไม่มีการจำกัดแต่เฉพาะกีฬาบางประเภท เพราะคุณสามารถเลือกเกมเดิมพันจากกีฬาฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล เทนนิส ฮ็อกกี้ และอื่นๆอีกมากมาย และในสำหรับคู่มือการเดิมพันกีฬาออนไลน์ของเราในวันนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักการเดิมพันแบบพาร์เลย์กันให้มากยิ่งขึ้น
ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่าการแทงกีฬาแบบพาร์เลย์คืออะไร อธิบายแบบที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การเดิมพันแบบแบบสะสม โดยผู้เดิมพันสามารถวางเดิมพันหลายเกมในตั๋วเดิมพันใบเดียว การเดิมพันแบบพาร์เลย์กำเนิดในช่วงปีค.ศ. 1820 และได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกรวมทั้งในเมืองไทย นักพนันเมืองไทยอาจจะคุ้นเคยกับการเดิมพันประเภทนี้ในรูปแบบของการแทงบอลชุด ซึ่งแตกต่างเพียงเล็กน้อยคือบอลชุดคือการเดิมพันบอลมากกว่า 1 คู่ในบิลเดิมพันเดียวกัน ในขณะที่การเดิมพันแบบพาร์เลย์ (Parlay Betting) นั้นเป็นการเดิมพันที่สามารถเลือกเดิมพันในกีฬาหลายประเภทได้
สิ่งที่น่าสนใจและดึงดูดนักพนันสำหรับการเดิมพันนี้คือคุณมีโอกาสที่จะชนะเงินรางวัลมากกว่าการวางเดิมพันเพียงครั้งเดียว และคุณสามารถรวมการเดิมพันแบบพาร์เลย์ แบบมันนี่ไลน์ แบบกระจายแต้ม แบบพร็อพ และอื่นๆ ได้ในบิลเดิมพันเดียว อย่างไรก็ตามนักพนันจะได้รับรางวัลเมื่อทีมที่คุณเลือกวางเดิมพันจะต้องถูกต้องทั้งหมดเท่านั้น
การเดิมพันแบบพาร์เลย์ (Parlay Betting) นั้นเป็นการเดิมพันที่ง่ายและไม่ซับซ้อน หลักการง่ายๆคือผู้เดิมพันเลือกเดิมพันมากกว่า 1 เกมในบิลเดิมพันเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วสามารถเลือกได้มากถึง 5 เกม โดยผลการเดิมพันทุกเกมจะถูกตัดสินภายในช่วงเวลาปกติของการแข่งขัน และผลการเดิมพันจะต้องถูกต้องทั้งหมดทุกเกม มิฉะนั้นแล้วจะไม่ได้เงินเดิมพัน
ตัวอย่างของการแทงเดิมพันแบบพาร์เลย์ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าการเดิมพันนี้ทำงานอย่างไรได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
วางเดิมพัน 1,000 บาทในเกมพรีเมียร์ลีก บิลเดิมพันของคุณจะมีลักษณะดังนี้:
● ลิเวอร์พูล : -5.5 สเปรด
● แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : +105 มันนี่ไลน์
● แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 225 ทั้งหมด
● เชลซี : +145 มันนี่ไลน์
สำหรับนักเดิมพันหน้าใหม่บางคน การคำนวณอัตราต่อรองในการเดิมพันแบบพาร์เลย์ (Parlay Betting) อาจจะมีความซับซ้อนอยู่บ้างในช่วงแรก เพราะเว็บเดิมพันแต่ละแห่งจะมีการนำเสนออัตราต่อรองที่แตกต่างกันไป ทั้งการต่อรองแบบเศษส่วน แบบทศนิยม และแบบมันนี่ไลน์ ข่าวดีก็คือเจ้ามือรับแทงกีฬาหรือเว็บเดิมพันกีฬาส่วนใหญ่จะคำนวณอัตราต่อรองให้คุณโดยอัตโนมัติ
และหากคุณต้องการคำนวณอัตราต่อรองและการจ่ายเงินออกก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยผ่านขั้นตอนดังนี้
1. แปลงอัตราต่อรองที่เลือกทั้งหมดเป็นรูปแบบทศนิยม
2. คูณอัตราต่อรองทศนิยมที่คุณเลือก
3. คูณผลลัพธ์ด้วยเงินเดิมพัน
4. ลบจำนวนเงินเดิมพันเดิมเพื่อกำหนดราคาพาร์เลย์
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเล่นการเดิมพันแบบกระจาย 4 แต้มที่อัตรา -110 คุณจะแปลงเป็นอัตราต่อรองทศนิยมให้เป็น 1.91 ดังนั้น ในการได้พาร์เลย์ คุณคำนวณดังนี้:
1.91×1.91×1.91×1.91 = 7.64
7.64 – 1 = 6.64
จะเห็นได้ว่าอัตราต่อรองของทีมที่เสมอกันจะถูกลบออกเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดิมพันของคุณ ซึ่งหมายความว่าอัตราต่อรองที่กำหนดไว้เดิมจะลดลง
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการเดิมพันแบบพาร์เลย์นั้นมีข้อดีมากมาย เนื่องจากเปิดโอกาสให้สามารถเลือกมากกว่าหนึ่งเกมการแข่งขัน จึงเป็นการเพิ่มขนาดของการรับเงินรางวัลเดิมพันในกรณีที่ทายถูก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการลดความเสี่ยงในการเดิมพันลงเนื่องจากคุณสามารถวางเงินเดิมพันจำนวนน้อยๆได้และมีสิทธิในการชนะรางวัลใหญ่เนื่องจากอัตราต่อรองที่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นการเดิมพันแบบพาร์เลย์ยังสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการทายผลการเดิมพันแบบสดและการเดิมพันล่วงหน้า
การเดิมพันแบบพาร์เลย์นั้นมีหลายประเภทที่คุณสามารถเลือกเดิมพันได้จากเว็บเดิมพันกีฬาออนไลน์ชั้นนำ โดยการเดิมพันแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกีฬาหรือการแข่งขันที่คุณกำลังเดิมพัน การเดิมพันแบบพาร์เลย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเว็บไซต์การพนันของไทยได้แก่
● แบบ Teaser การเดิมพันประเภทนี้ ผู้เล่นจะสามารถย้ายจุดออกไปได้ตามที่ต้องการ เป็นการเดิมพันที่อาจจะได้เงินน้อย แต่โอกาสในการชนะนั้นมีมากกว่า
● แบบ Pleasers เป็นการเดิมพันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการแทงแบบพาร์เลย์เท่านั้น และต้องมีการเดิมพันอย่างน้อยหนึ่งรายการบนบิลเดิมพัน
● แบบ Round Robins การเดิมพันนี้กำหนดให้นักพนันต้องเลือกแถวที่ไม่ซ้ำอย่างน้อยสามแถวบนบิลเดิมพัน
● แบบ สูง/ต่ำ การเดิมพันประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนและประตูของสองทีม
● แบบ มันนี่ไลน์ นักเดิมพันจะต้องเลือกทีมที่จะชนะหรือแพ้ โดยหากทายถูกจะได้รับเงินรางวัลสูง
● การกระจายแต้ม: ในการเดิมพันนี้ ทีมที่เป็นรองจะได้รับคะแนนมากกว่าล่วงหน้าเพื่อสร้างความสมดุลกับคู่แข่งที่เป็นทีมต่อ
เช่นเดียวกับการเดิมพันประเภทอื่นๆที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การเดิมพันแบบพาร์เลย์ (Parlay Betting) ก็เช่นเดียวกัน มีอะไรบ้างไปดูกัน
● หากทายถูกทั้งหมดทุกเกมในบิลเดิมพันจะได้รับเงินรางวัลจำนวนมาก
● นักพนันมีโอกาสในการเดิมพันในหลายทีมที่ชื่นชอบ
● นักพนันไม่ต้องเล่นอย่างสม่ำเสมอก็สร้างรายได้ได้ง่ายๆ
● เดิมพันได้กับกีฬาหลายประเภท
● นักพนันจะเดิมพันได้แบบตื่นเต้นและสนุกมากขึ้นเพราะลุ้นได้หลายคู่
● มีความเสี่ยงสูงในการแพ้เดิมพัน เพราะต้องทายทุกคู่ให้ถูกต้อง
● เว็บเดิมพันกีฬาไม่ยอมรับการเดิมพันแบบพาร์เลย์ที่มีความสัมพันธ์กัน
อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักและเข้าใจการเดิมพันแบบพาร์เลย์กันมากขึ้นไม่มากก็น้อย โดยการเดิมพันประเภทนี้นั้นเป็นการเดิมพันที่โดยรวมแล้วมีความเสี่ยงมากกว่าการเดิมพันแบบเกมเดี่ยว แต่หากทายถูกหมดทุกเกมก็สามารถรับเงินรางวัลได้จำนวนมากเลยทีเดียว ดังนั้นหากคุณต้องการเลือกเดิมพันแบบพาร์เลย์ให้ได้ผลสูงสุด ควรศึกษาเกมทุกเกมที่จะเลือกรวมไว้ในบิลเดิมพันให้ดีเสียก่อนเพราะหากคุณพลาดหนึ่งเกม ก็จะเสียเงินเดิมพันในบิลนั้นๆไปทันที และหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจในการเดิมพันประเภทนี้ ก็สามารถเลือกเดิมพันได้จากรายชื่อของเว็บเดิมพันกีฬาที่เชื่อถือได้ในการรีวิวเว็บเดิมพันกีฬาออนไลน์ที่เชื่อถือได้ที่สุดของเรากันเลย
การพนันพาร์เลย์ บอลชุดหรือสเต็ปนั้นแทบจะไม่แตกต่างกัน และมีกฎและวิธีการเดิมพันพื้นฐานแบบเดียวกัน
หากนักพนันศึกษาเกมทุกเกมที่แทงในบิลเดิมพันอย่างดี ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการทายผิดลง และเมื่อชนะแล้วจะได้เงินรางวัลจำนวนมาก
สำหรับเว็บเดิมพันกีฬาบางเว็บเลือกเดิมพันได้ขั้นต่ำที่ 10 บาทเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มที่ 50 บาท
เว็บเดิมพันกีฬาส่วนใหญ่นักเดิมพันเดิมพันพาร์เลย์ได้สูงสุด 5 เกมในบิลเดียว
การเดิมพันแบบพาร์เลย์สามารถนำมาใช้ได้กับกีฬาทุกประเภท แต่ที่นิยมมากที่สุดได้แก่ ฟุตบอล บาสเกตบอล อเมริกันฟุตบอล เป็นต้น