ทายผลการแข่งขันและรีวิวเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกระหว่างลิเวอร์พูลกับเรอัล มาดริด
ทายผลการแข่งขันและรีวิวเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกระหว่างลิเวอร์พูลกับเรอัล มาดริด
เกมคู่ใหญ่สุดสำหรับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกสัปดาห์นี้ แฟนบอลทั่วโลกจะเบนความสนใจไปที่สนามแอนฟิลด์ของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่จะเปิดบ้านต้อนรับเรอัล มาดริด สุดยอดทีมจากลาลีกา สเปนที่กำลังโชว์ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง
Sports Betting Thailand จะพาคุณเจาะลึกความพร้อมของทั้งสองทีม วิเคราะห์สถิติการแข่งขัน และรวมรายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (แพ้-ชนะ-แพ้-แพ้-แพ้)
ลิเวอร์พูลกำลังอยู่ในฟอร์มที่เป๋สุดๆ เพราะแพ้ไปแล้วถึง 5 นัดจาก 6 เกมล่าสุด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เราไม่ได้เห็นกันมาหลายปี การบริหารนโยบายการซื้อขายนักเตะของสล็อต ทำลายเคมีในทีมของลิเวอร์พูลอย่างมาก และเราสามารถพูดได้โดยไม่ลังเลเลยว่า นักเตะจากดัตช์รายนี้ทำลายทุกสิ่งที่ คล็อปป์ สร้างไว้ก่อนหน้านั้น
เกมรับของทีมดูแย่มาก โดยเฉพาะ เคอร์เคซ ที่เป็นจุดอ่อนหลัก และไม่แปลกใจเลยที่ลิเวอร์พูลมีสถิติเสียประตูต่อเนื่องถึง 9 เกมติดต่อกัน แนวรับของทีมเสียไป 2 ประตูขึ้นไปใน 4 จาก 6 นัดล่าสุด ซึ่งปัญหานี้ชี้ชัดถึงความบกพร่องของแผงหลัง
สิ่งที่สำคัญกว่าคือในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทีมทุ่มเงินไปเกือบ 500 ล้านปอนด์ แต่กลับไม่มีนักเตะใหม่คนใดที่สามารถเข้ากับทีมได้อย่างลงตัว ทำให้การตัดสินใจซื้อขายนักเตะในตลาดครั้งนี้อาจถือว่าเป็น หนึ่งในความล้มเหลวที่ใหญ่ที่สุดของลิเวอร์พูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เรอัล มาดริด (ชนะ-ชนะ-ชนะ-แพ้-ชนะ)
สำหรับ เรอัล มาดริด ผลงานในฤดูกาลนี้ถือว่าดีเยี่ยม โดยพวกเขาชนะไปแล้ว 12 นัด และแพ้เพียง 1 นัดตั้งแต่เริ่มฤดูกาล การชนะล่าสุดเกิดขึ้นในการดวลกับบาร์เซโลนาใน เอล กลาซิโก้ ด้วยสกอร์ 2‑1 แน่นอนว่าเรอัล มาดริดไม่ได้เล่นฟุตบอลที่สวยงามที่สุด และมีความตึงเครียดภายในทีมไม่ว่าจะเป็นเรื่องวินิซิอุสมีปัญหากับผู้จัดการทีม, เอ็มบัปเป้ เล่นบอลแบบเห็นแก่ตัว รวมทั้งวาลเวร์เด้ มีความขัดแย้งกับ ซาบี อลอนโซ่ แต่ระบบการเล่นโดยรวมยังคงได้ผล
แม้บางครั้งฟอร์มการเล่นของเรอัล มาดริดจะดูน่าเบื่อและทำให้แฟนบอลบางส่วนไม่พอใจ แต่ผลการแข่งขันถือว่ายอดเยี่ยมและนั่นคือสิ่งที่สำคัญ โดยแพ้ไปเกมเดียวให้กับแอตเลติโก มาดริด 2‑5 หลังจากนั้นพวกเขาชนะติดต่อกันสองเกมโดยไม่เสียประตูเลย
ต้องชื่นชม ซาบี อลอนโซ่ ไม่ปล่อยให้ปัญหาเชิงลบภายในทีมมาขัดขวางการไหลของเกม แม้จะมีปัญหามากมายทั้งในสนามและนอกสนาม แต่เขาสามารถจัดการและเก็บไว้เบื้องหลังได้ชั่วคราว ทำให้ผลการแข่งขันยังคงออกมาดีเยี่ยม
ลิเวอร์พูล (4-3-3): มามาร์ดาชวิลิ:แบรดลีย์, โคเนเต้, ฟาน ไดค์, เคอร์เคซ:กราเฟนแบร์ก, แม็ค อัลลิสเตอร์, ซาลาห์: ซโบโซไล, กัคโป, และเอคิติเก้
เรอัล มาดริด (4-3-2-1): คูร์ตัวส์ วาลเวร์เด้, ฮูยเซ่น, รูดิเกอร์: การ์ราส, เบลลิงแฮม, คามาวิงก้า : กูเลอร์, วินิซิอุส จูเนียร์, การ์เซีย, เอ็มบัปเป้
ทั้งสองทีมเคยพบกันประมาณ 12 นัดในรายการใหญ่ เช่น แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเรอัล มาดริดชนะ 7 นัด ลิเวอร์พูลชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัด ในแง่ของสนามเหย้า ลิเวอร์พูลเคยดวลกับเรอัล มาดริดที่แอนฟิลด์ 6 ครั้ง ผลลัพธ์คือ ลิเวอร์พูลชนะ 3 ครั้ง เรอัล มาดริดชนะ 2 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการพบกันแต่ละครั้งมักใกล้เคียงและผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับจังหวะเกม
ลิเวอร์พูล จะเน้นการครองบอลและกดดันคู่แข่งตั้งแต่แดนกลางเนื่องจากเล่นในบ้านและมีเสียงเชียร์จากแฟนบอลเป็นแรงผลักดัน ทีมยังมีจุดเด่นที่ปีกความเร็วสูงอย่าง ซาลาห์ และ กัคโป ที่สามารถเจาะแนวรับของเรอัล มาดริดได้ แต่ปัญหาใหญ่คือเกมรับยังไม่แน่นหนา และนักเตะใหม่หลายคนยังเข้ากับทีมไม่ลงตัว ซึ่งอาจทำให้แนวรับเสียสมดุลง่าย
เช่นเคยสำหรับเรอัล มาดริดเน้นควบคุมเกมกลางสนามและรอจังหวะสวนกลับเร็ว นักเตะอย่าง วินิซิอุส และ เอ็มบัปเป้ สามารถพลิกเกมได้ทันทีจากจังหวะโต้กลับ เกมรุกของพวกเขาอาจไม่สวยงาม แต่ระบบของ ซาบี อลอนโซ่ ทำให้ทีมยังคงสร้างผลการแข่งขันได้ดี เกมนี้เรายังเชื่อมั่นว่าเรอัล มาดริดน่าจะแข็งแกร่งมากกว่าและบุกมาเก็บชัยชนะไปได้
ผลการแข่งขันที่น่าจะเป็น : ลิเวอร์พูล 1-2 เรอัล มาดริด